Uncategorized

ครอบครัวสาว17 ร้องทุกข์ ตร.บุกถึงบ้าน ยันไม่ได้เป็นเด็กเอ็นฯ แค่เมากลับไม่ไหว

กัน จอมพลัง พาครอบครัว สาว 17 ร้องทุกข์ หลังตร.บุกถึงบ้านให้ขึ้นรถไปเคลียร์ ยันไม่ได้เป็นเด็กเอ็นฯ แค่เมากลับไม่ไหว ยอมเข้าห้องเพราะคิดว่าเป็นดาราไม่น่าทำอะไร
วันที่ 12 ธ.ค. 66 ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ได้พาตาของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี มาร้องขอความเป็นธรรม กับ

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีหลัง เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น โดยอ้างว่า ถูก สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยชื่อดัง พาเข้าโรงแรม แล้วลงมือกระทำอนาจาร หลังรู้จักกันในผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า แม่ของเด็กอายุ 17 ปี ติดต่อมาขอความช่วยเหลือ ตนจึงเตรียมเอกสารหลักฐานมาพร้อมกับพาคุณตาของน้องมาให้ข้อมูลด้วย เนื่องจากครอบครัวเป็นกังวลเพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียง และมีคอนเนคชั่น รู้จักคนเยอะในจังหวัดจอนแก่น และตัวน้องอายุ 17 ปี อ้างว่ามีตำรวจในพื้นที่ไปหาที่บ้าน และบอกว่า “ขึ้นรถหน่อยเดี๋ยวจะไปเคลียร์” น้องก็ตกใจว่าจะไปไหน คุณยายของน้องก็ปฏิเสธไป พร้อมกับอ้างว่า “ไม่มีเงินที่จะเดินทางไป” แต่คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ก็ยืนยันว่า “ไปเถอะ ได้เงินเยอะแน่นอน”

ส่วนของคดีความ เบื้องต้นได้ประสาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ตนได้ประสานไปยังท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีมหาดไทย เพื่อให้ช่วยเหลือ หาความจริง ในส่วนที่ว่าทางสถานบันเทิงอ้างว่าน้องอายุ 17 ปี ปลอมบัตรประชาชนเพื่อให้สามารถเข้าไปในร้านได้ ซึ่งก็อยากให้ตรวจสอบว่ามีการปลอมบัตรจริงหรือไม่ ซึ่งตนได้สอบถามความจริงกับน้องอายุ 17 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ปลอมบัตรแน่นอน

ในวันดังกล่าวเดินทางไปที่สถานบันเทิงกับเพื่อนทั้งหมด 4 คน โดย 3 คนในกลุ่ม นำรูปบัตรประชาชนในโทรศัพท์ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนของน้องอีกคนได้นำบัตรประชาชนของตัวเองยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู และอายุน้อยกว่า เด็กอายุ 17 ปี อีกก็ยังสามารถเข้าไปได้

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนได้พูดคุยกับครอบครัวของน้องอายุ 17 ปี ก็ทราบว่า ทางครอบครัวไม่รู้เลยว่าวันดังกล่าวน้องจะไปเที่ยวต่อ เนื่องจากวันนั้นเป็นวันสอบ TGAT – TPAT แต่เพื่อนชวนไปเที่ยวจึงตัดสินใจไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางครอบครัวบอกว่าคุณสมรักษ์ได้ติดต่อน้องอายุ 17 ปีไป และบอกว่า “ไปแจ้งความทำไม ยังไม่ได้ทำเลย” ส่วนน้องอายุ 17 ปีก็ยืนยัน “พี่ลวนลามหนู”

โดยคืนนั้นได้สอบถามไปว่าน้อง ได้ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ก่อนหรือไม่ หรือส่งคลิปดังกล่าวไปเรียกรับเงินแลกกับการไม่แจ้งความ น้องก็ยืนยันว่า ไม่ได้ทำ

วันเกิดเหตุน้องเล่าให้ฟังว่าตนจะกลับเพื่อนเมาไม่สามารถขี่รถจักรยานยนต์ได้เพื่อนในกลุ่มไปเจอเพื่อนที่ร้านก็เลยวานให้ไปส่ง ส่วนตัวของน้องเอง มีการ์ดที่ร้านอาสาจะไปส่ง น้องก็ไว้ใจ และนำคีย์การ์ดโรงแรมให้การ์ดดูว่ารู้จักโรงแรมนี้หรือไม่ การ์ดจึงพาไปส่งโรงแรม ที่เป็นโรงแรมของนักมวย และเดินเข้าไปพร้อมกับนักมวย เพราะคิดว่า “เขาเป็นดารา ไม่น่าจะมาทำอะไร และคิดว่า ลูก ๆ ของเขาจะอยู่ในห้องด้วย เพราะเห็นในแอพอะไรบางอย่าง เข้าใจว่าลูกอยู่ในห้อง จึงยอมเข้าไปด้วย”

ทั้งนี้พ่อแม่ยืนยันว่า ลูกสาวไม่ได้รับงานเอนเตอร์เทน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนอื่นเรื่องถูกกระทำอนาจารเลย เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก ยืนยันว่าไม่ได้เรียกเงินและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่เข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ ให้มาหาความจริงกัน

ส่วนที่ คุณตา ของน้องอายุ 17 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า หลานสาวของตนเป็นคนดี ในวันนี้ตนอยากสะท้อนให้คุณตาเห็นว่า ถ้าหากเลี้ยงหลานดีหลานก็คงไม่หนีไปเที่ยว

ด้าน ตา ของน้อง กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตอนเช้าน้องขอเงินเพื่อไปโรงเรียนอยู่เลย ไม่รู้เลยว่าหลานไปเที่ยว และในคืนนั้นเห็นว่าดึกแล้ว หลานยังไม่กลับมา ยายก็พยายามโทรติดต่อหาหลาน แต่โทรไปแล้วหลานไม่ยอมรับโทรศัพท์ ซึ่งปกติหลานไม่ได้เป็นแบบนี้ จะสามารถติดต่อได้ทุกครั้ง โดยที่ผ่านมาหลานจะกลับบ้านดึกบ้างบางครั้ง แต่เรื่องดังกล่าวไม่รู้เรื่องเลย ส่วนเรื่องที่หลานปลอมบัตรประชาชนเพื่อเข้าไปในสถานบันเทิงนั้น ตาไม่รู้เรื่องเลย ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่าหลานตั้งใจจะถ่ายคลิปแบล็กเมล์นั้น เชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้

ด้านว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดย ส่วนที่ 1 คือ ต้องแจ้งให้ทางจังหวัด ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวว่า มีใบอนุญาตในการเปิดสถานบันเทิงหรือไม่ รวมถึงขั้นตอนในการคัดกรองคนที่เข้ามาใช้บริการ ว่าอายุถึง 20 ปีหรือไม่ และเรื่องการใช้บัตรประชาชนปลอมปลอม เพื่อเข้าสถานบันเทิง ว่าจริงหรือไม่ และ ทางสถานบันเทิงเข้าได้อย่างไร

ส่วนที่ 2 จะต้องตรวจสอบว่าเด็กอายุ 17 ปีถูกล่วงละเมิดทางเพศจริงหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ 3 คือ การดำเนินคดีกับคู่กรณี ซึ่งต้องไปตรวจสอบว่า จะเข้าข่ายพรากผู้เยาว์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และมีเรื่องการใช้สารหรือไม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *