การกำจัด

‘แพรรี่’ ฟาดอีก จบบาลีเพราะสติปัญญา ไม่ได้เอาบาตรแลกมา สึกแล้วก็ยังมีเลือดเปรียญ ๙ เต็มหัวใจ

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต
‘แพรรี่’ ฟาดอีก จบบาลีเพราะสติปัญญา ไม่ได้เอาบาตรแลกมา ยอมไม่ได้ย่ำยีพระธรรมวินัย แม้สึกแล้วก็ยังมีเลือดความเป็นเปรียญ ๙ อยู่เต็มหัวใจ

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต
วันที่ 29 พ.ย.66 จากกรณี แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวัณฺโณ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า คดีที่พระน้ำฝนฟ้องร้องดิฉัน ศาลยกฟ้องค่ะ เป็นอย่างไรคะ วันนั้นที่แถลงข่าวกันเป็นใหญ่เป็นโต กล่าวหาดิฉันว่าหมิ่นประมาทเช่นนั้นเช่นนี้ พูดจาโอ่อ่าวางท่าวางที สุดท้ายวันนี้ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง แล้วยกฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องเลยนะคะ พระน้ำฝนก็ดี ลุงทนายเปรียญ ๓ ของพระน้ำฝนก็ดี ถ้าพอมีเวลาว่างมาพบดิฉันได้ อ่านข่าว ศาลยกฟ้อง แพรรี่ ไพรวัลย์ คดีหมิ่นประมาท หลวงพี่น้ำฝน ลั่นถ้าว่างมาพบดิฉันได้

ทั้งนี้สำหรับกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2566 หลวงพี่น้ำฝน หรือพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม มอบอํานาจให้ ทนายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทนายความและไวยาวัจกร วัดไผ่ล้อม มาที่ศาลจังหวัดนครปฐม ยื่นฟ้องคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยมีจำเลย 10 คน ได้แก่ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร จําเลยที่ 1

ล่าสุด แพรรี่ ได้โพสต์อีกว่า ดิฉันใช้เวลาในการศึกษาเล่าเรียนบาลีมา 8 ปีเต็ม ใช้เวลาอีกเกือบ 10 ปีในการสั่งสอนพระเณรเพื่อสร้างศาสนทายาท ดิฉันอยากบอกนะคะว่า ที่จบบาลีมาได้เนี่ย ไม่ได้จบเพราะเอาบาตรแลกมานะคะ ดิฉันใช้สติปัญญาและความรู้ความสามารถของตัวเองในการสอบไล่ได้ล้วนๆ

ดิฉันอาจยอมได้ในบางเรื่อง แต่เรื่องการบิดพริ้วหรือการย่ำยีพระธรรมวินัย ดิฉันไม่ยอมค่ะ แม้สึกแล้วก็ยังมีเลือดความเป็นเปรียญ ๙ อยู่เต็มหัวใจนะคะ เรื่องการพระศาสนา เจอกันเมื่อไหร่ก็ได้ จบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *