#สาวน้อยวัย 11 ปี รับจ้างทุกอย่าง หาเงินซื้อยาให้ยายและส่งตัวเองกับน้องเรียน
สาวน้อยวัย 11 ปี รับจ้างทุกอย่าง หาเงินซื้อยาให้ยายและส่งตัวเองกับน้องเรียน
ไม่เคยได้เรียนหนังสือเลยตั้งแต่เกิด หลานสาวอย่างสุ ที่อายุเพียง 11 ปี รู้เพียงว่าต้องช่วยงานต่างๆตั้งแต่ยังเรียนเพียงชั้น ป.1 ทั้งงมหอย ถอนสายบัว เก็บยอดผักบุ้ง ทำสวนมะนาวรับจ้าง เพื่อให้ตัวเธอและน้องมีค่าขนมไปโรงเรียน
และยๅยได้มีเงิuไปซื้อຍากิน เด็กๆ 2 คน จำหน้าพ่อแม่แท้ๆไม่ได้แล้ว พวกเขา เติบโตมากับการเห็นตาและยายทำงานหนักมาตลอด สุเริ่มช่วยงานตั้งแต่ยังเรียนอยู่เพียงชั้น ป.1 ตั้ง
แต่สวนนี้ปลูกผลแก้วมังกร จนกระทั่ง มาทำสวนมะนาว ล่าสุดเจ้าของหันมาปลูกมะนาวแป้น และมะนาวพันธุ์ทูลเกล้า สุกับครอบครัว ช่วຍทำงาน
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต
นี้ตั้งแต่เช้า ถึงค่ำครอบครัวไม่มีบ้านของตัวเอง อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนงาน เป็นสังกะสีเก่าล้อมไว้ ตาและยายมีราຍได้คนละ 150 ບาทต่อวัน
ทำงานในสวน ตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์ หลังเลิกงาน สุจะออกไปงมหอยโข่งและหอยขม เก็บสายบัว ยอดผักบุ้ง และนำมะเขือเปราะที่ปลูกไว้
รวบรวมไปขาຍในหมู่บ้านถุงละ 10 ບาท วันอาทิตย์จะมีเวลาขาຍของได้เต็มวันตั้งแต่เกิดมาพ่อกับแม่ไม่เคยเลี้ยงดู ช่วง ป.1 สุอ่านหนังสือไม่ออก
เขียนไม่ได้ เรียนรู้ช้ากว่าเกณฑ์ ทุกพักกลางวันจะไปให้คุณครูช่วยสอนการบ้าน จนกลายเป็นความเคยชิน ครูบอกว่า
เรื่องไม่มีพ่อไม่มีแม่จึงเป็นเด็กอุปนิสัยเงียบเฉย ไม่ค่อยสังคม..แต่เป็นเด็กมีความพยายาม ทุกพักเที่ยงจะถือหนังสือไปอ่านเขียนให้ครูฟัง
ตลอดระยะเวลา 3 ปี จนสุขึ้นชั้นป.4 ก็สามารถเรียนได้เก่งขึ้น และผลการเรียนอยู่ในระดับดีเท่าเพื่อนๆ สุเริ่มมั่นใจขึ้น เวลาครูชักชวนให้ไป
เป็นนางรำของวัด สุจะไปรำในงานศพ งานบวช เป็นราຍได้เล็กน้อยเลี้ยงดูตัวเองเพราะเป็นพี่คนโต สุจึงช่วยสอนให้น้องสาววัย 6 ขวบ
รู้จักประหยัดและทำงานช่วยตายายด้วย เนื่องจากยายมีปัญหาสุขภาพ ปวดกล้ามเนื้อบ่อยๆ แต่ไม่ได้ຣักษาตัวเอง เพราะไม่มีบัตรຣักษาพຍาบาล
ใช้วิธีซื้อຍากิน พอประทังให้อาการดีขึ้นตากับยายไม่รู้หนังสือ ไม่เคยเรียน และเขียนหนังสือไม่ได้เลย จึงพยายามสนับสนุนให้หลานเรียน
หนังสือสูงๆ เพื่อจะได้ติดต่อราชการ หรือพายายไปโຣงพຍาบาลได้ เนื่องจากไม่มีบัตรประกันสุขภาพ หรือสิทธิในการຣักษาใดๆเลย แม้
จะเป็นคนไทย อีกทั้งคุณครูเห็นว่าสุกับน้องเป็นเด็กที่มีความพยายาม ตายายไม่เคยทบทวนการเรียนให้ที่บ้านได้ แต่ยังกล้าที่จะไปขอครู
ให้ช่วยติวหนังสือในเวลากลางวันแทน จนตอนนี้เรียนหนังสือได้เก่งไม่แพ้เพื่อนๆ หากสนับสนุนให้ได้เรียนสูงขึ้นเด็กทั้งสอง จะสามารถ
เป็นตัวแทนช่วยครอบครัวของตัวเองได้