หนุ่มนักดนตรี ช้ำภรรยาถูกพระขืนใจ จนตั้งท้อง 7 เดือน
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายวรุต (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังรู้ความจริงว่าภรรยาจดทะเบียนสมรสถูกพระขืนใจระหว่างไปทำบุญที่วัดจนตั้งครรภ์ 7 เดือน ต่อมาพระได้โทรศัพท์มาข่มขู่ให้ส่งมอบเมียมาให้พระแต่โดยดี ล่าสุดพระตัดสินใจสึกและบุกมาที่บ้านเพื่อมาทวงเมียจากสามีนักดนตรี พร้อมขู่เอาชีวิตหากไม่ยินยอม
โดยนายวรุตเปิดเผยว่า ครั้งแรกไม่ทราบอะไรเลย คู่กรณีขับรถมาถึงบ้าน นางวรรณภา ภรรยา 31 ปี แต่งงานกันมา 8-9 ปี ตั้งท้องแล้ว 7 เดือน ก่อนหน้านี้ไปแจ้งความที่ สภ.ทรายมูล จ.ยโสธร และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดนพระขืนใจ ชื่อวัดป่าธรรมจารี จ.ยโสธร ตอนไปทำบุญ ตัวภรรยาไม่เคยเล่า มารู้ตอนสุดท้ายเกิดเหตุดังกล่าว ปกติส่วนใหญ่แฟนไปทำบุญไม่ค่อยอยู่บ้าน ครั้งละประมาณ 2 วัน และอยู่ยาวสุดไม่เกิน 1 อาทิตย์ ต่อมาพระเคยเข้ามาที่บ้านขึ้นไปบนห้องพระ ภรรยาคนใจบุญบริจาคเงินเข้าวัดเสมอ แต่พระเข้ามาครั้งแรกตนไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าตาชัดเจน วันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา พระนั่งรถกู้ภัยมาเปิดไฟไซเรน ประกาศเรียกชื่อภรรยาตนอยู่หรือไม่ เพื่อนบ้านบอกมีคนมาก่อกวน ประกาศเรียกชื่อภรรยาให้ไปหา
จนกระทั่งเขามาเรียกตนให้ไปคุยหน้าปากซอย จากนั้นเขาก็กลับไป จึงไปถามทราบว่า ภรรยาตั้งท้อง 7 เดือน สิ่งที่มาร้อง คือตน ภรรยา ครอบครัวภรรยาโดนคุกคาม โดยพระที่สึกมาดังกล่าว อ้างว่ามีพรรคพวกอยู่อุบลราชธานี ระหว่างที่ตนพูดคุยก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง คิดว่าคงแค่ต้องการมาไกล่เกลี่ยหรือคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับภรรยา ภรรยาเลือกที่จะอยู่กับตน เรื่องมาถึงขนาดนี้ก็เลยเลิกกัน แต่แม่ของตนก็เห็นใจ ตนไม่ทราบความจริงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องดังกล่าวเข้ามา ทำงานหาเงินเลี้ยงแม่และแม่ยาย เอาจริงๆ ผมมีปืนผมคงเอาไปยิงเขาแล้วแต่ก็ไม่อยากนอนในคุก
นอกจากนี้ มีข่มขู่ว่ามีการถ่ายคลิปวิดีโอตอนมีสัมพันธ์ ภรรยาบอกว่าไม่กล้าบอกตนว่าโดนขืนใจเมื่อปีที่แล้วจึงแจ้งความดังกล่าว จากนั้นมีการโพสต์ว่าจะมาเอาลูกไป แต่ภรรยาของตนก็ให้นมอยู่ ฝั่งแม่ยายผมและครอบครัวพระที่สึกแล้วมีการคุยไกล่เกลี่ย ทางฝ่ายพระที่สึกต้องการแค่ลูก แม่ยายผมก็บอกว่าเอาไปเลย แต่ฝั่งภรรยาไม่อยากให้ จนกระทั่งถูกคุกคามจนไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรจึงมาร้องเพื่อให้ช่วยเหลือกรณีดังกล่าวนายวรุตกล่าวทั้งน้ำตา ด้านนายเอกภพกล่าวว่า กรณีจะไล่ตรวจสอบช่วงเวลาการแจ้งความประสาน ผกก.สภ.ทรายมูล ตามคดี และประสานพื้นที่บ้านของน้องเขา พรุ่งนี้จะทำเรื่องกับกรมคุ้มครองสิทธิ์ ทำเรื่องคุ้มครองพยานตามกฎหมาย ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย