เปิดประวัติ เมฆ วินัย ไกรบุตร พระเอกร้อยล้าน
เรียกได้ว่าเป็นข่าวเศร้าสำหรับวงการบันเทิงบ้านเราเป็นอย่างมาก เมื่อ เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร ภรรยา เมฆ -วินัย ไกรบุตร ได้แจ้งข่าวร้าย ระบุว่า เมฆ วินัย สิ้นลมอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 23.49 น. วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น นำมาซึ่งการเสียชีวิตในที่สุด
ไม่มีคำอธิบาย
เป็นนักแสดงชาวไทย ที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ นางนาก เมื่อปี พ.ศ. 2542 จนได้รับฉายาว่า “พระเอกร้อยล้าน” เป็นนักแสดงที่พูดด้วยสำเนียงปักษ์ใต้
ไม่มีคำอธิบาย
วินัย ไกรบุตร ภูมิลำเนา เกิดที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ตั้งแต่กำเนิด เขานับถือศาสนาพุทธและศรัทธาในจตุคามรามเทพ
ไม่มีคำอธิบาย
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และศึกษาต่อระดับปริญญาโทบริหารในสถาบันเดียวกัน มีกิจการของตัวเองนอกเหนือไปจากการแสดง คือ ขายปุ๋ย โดยมีโลโก้เป็นรูปหน้าตัวเอง ชีวิตครอบครัวสมรสกับ ชลรดา แสนสินรังษี (เอ๋) ซึ่งทั้งสองรู้จักกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554 ทั้งสองมีบุตร-ธิดาด้วยกัน 3 คนชื่อ มาร์ค
มาวิน ไกรบุตร
แมม ปารย์กัลญา ไกรบุตร
น้องเมริส์
วินัย เสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567 ที่โรงพยาบาลสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร สิริอายุรวม 54 ปี
สำหรับประวัติ เมฆ วินัย ไกรบุตร (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น หัฒศนัย ไกรบุตร) ชื่อเล่น เมฆ (16 มิถุนายน พ.ศ. 2512-20 มีนาคม พ.ศ. 2567)
ปัจจุบันอายุ 54 ปี
เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ, ถ่ายโฆษณา และเคยเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงของ แกรมมี่, อาร์เอส ประมาณช่วงปี พ.ศ. 2535- 2537 มาก่อน จากนั้นจึงได้แสดงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ราว 4-5 เรื่อง เช่น หอบรักมาห่มป่า (พ.ศ. 2537) ผู้ชายหัวใจไม่พายเรือ (พ.ศ. 2538) เป็นต้น แต่ชื่อเสียงมีในระดับหนึ่ง
ในปี พ.ศ. 2542 เมื่อได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง นางนาก ด้วยการรับบทเป็น มาก สามีของนางนาก (ทราย เจริญปุระ) จากการกำกับของ นนทรีย์ นิมิบุตร ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้อย่างมาก ส่งผลให้วินัย ไกรบุตร มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นมาด้วย และในปี พ.ศ. 2543 ก็ได้รับบท อ้ายอิน จากเรื่อง บางระจัน ภาพยนตร์ก็ประสบความสำเร็จทางรายได้อีก หลังจากนั้น วินัย ไกรบุตร ได้แสดงภาพยนตร์ตามมาอีก 3-4 เรื่อง แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนประสบความสำเร็จเท่า 2 เรื่องข้างต้น ผลงานการแสดงจึงได้ค่อยบทบาทลง