ปลูกทับทิมผลดกเกษตร

เผยเทคนิค ปลูกทับทิมให้ผลดก หวานฉ่ำ น่ากิน แถมคุณประโยชน์เกินคณานับ ปลูกที่บ้านก็เก็บกินได้ทั้งปี

ทับทิม (Pomegranate) จัดเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดต่างถิ่น แต่นิยมปลูก และรับประทานมากในปัจจุบัน เนื่องจาก ผลมีเนื้อหุ้มเมล็ดที่ให้น้ำฉ่ำหวานอมเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และสารที่ออกฤทธิ์ทางยาหลายชนิด รวมถึงทั้งลำต้นสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับบรรเทา และรักษาโรคได้หลายชนิด การแพร่เข้ามาของทับทิมสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะแพร่เข้าผ่านมา 2 ทาง คือ ประเทศอินเดีย และประเทศจีนในราวศตวรรษที่ 3-4 ส่วนประเทศไทยน่าจะแพร่เข้ามาในช่วงสมัยอยุธยา ผ่าน 2 ทาง เช่นกัน คือ ทั้งทางประเทศอินเดีย และศรีลังกา และอีกทางคือ มาจากประเทศจีน ซึ่งจะมาจากการติดต่อค้าขายจากชาวจีน และอินเดีย พันธุ์ทับทิมเก่าแก่ที่มีการปลูกทับทิมในประเทศไทยในระยะแรกนั้น คือ พันธุ์บางปลาสร้อย ที่มีแหล่งปลูกมากในแถบภาคใต้บริเวณอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียง แล้วค่อยแพร่ไปสู่จังหวัดอื่นๆ

ลักษณะของต้นทับทิม

ลำต้น

ทับทิมเป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นมีสีเทา มีหนามแหลมยาวขึ้นอยู่บริเวณกิ่งก้าน ความสูงของลำต้นมีประมาณ 6-10 ฟุต

ใบ

มีลักษณะเป็นรูปยาวรี ขนาดเล็ก ปลายใบแหลม โคนใบมน ผิวใบเรียบเป็นมัน ขอบใบเรียบ เมื่อมองใต้ท้องใบจะสามารถเห็นเส้นใบได้อย่างชัดเจน ขนาดความกว้างของใบมีประมาณ 1-1.8 ซม. ยาวประมาณ 3-4 ซม.

ดอก

ดอกทับทิมจะออกอยู่บริเวณง่ามกิ่ง หรือปลายยอด อาจออกเป็นดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อก็ได้ มีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ ส่วนโคนกลีบเชื่อมติดกัน และแยกออกจากกันที่ปลายกลีบ มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่บริเวณกลางดอก สีของดอกมีทั้งที่เป็นสีขาว สีส้ม หรือสีแดง ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ เส้นผ่านศูนย์กลางของดอกที่บานเต็มที่จะมีประมาณ 2-3 ซม.

ผล

ลักษณะของผลค่อนข้างกลม ผิวเปลือกเรียบ หนา สีของผลจะมีสีเหลืองอมแดงเมื่อสุก และมักจะแตกออกเมื่อปล่อยให้สุกมากๆ ผลที่โตเต็มที่จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-10 ซม.

วิธีการปลูกทับทิม

ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกทับทิมมากที่สุดจะอยู่ในช่วงต้น-กลางฤดูฝน เพื่อให้ได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ในช่วงแรกของการปลูก ส่วนใหญ่พื้นที่ปลูกจะเป็นแบบยกร่อง โดยให้แปลงที่ยกมีความกว้างประมาณ 5-7 เมตร จะปลูกต้นทับทิมได้ 2 แถว สำหรับพื้นที่ปลูกที่ลาดชัน ควรป้องกันการพังทลายของหน้าดินด้วยการยกร่องเป็นขั้นบันได

เมื่อไถพรวนดินและตากแดดทิ้งไว้ระยะหนึ่งแล้ว ก็ให้เตรียมหลุมปลูก โดยใช้ระยะปลูก 3×3 เมตรจะเหมาะสมที่สุด จะใช้วิธีปลูกแบบสลับฟันปลาหรือแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสก็ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ขนาดหลุมปลูกควรมีความกว้างและลึกประมาณ 1 ศอก ผสมดินส่วนบนที่ขุดจากหลุมกับปุ๋ยหมักใช้รองก้นหลุม หรือจะผสมดินกับหญ้าแล้วทิ้งไว้จนย่อยสลายก็ได้ กลบดินที่เหลือให้ต่ำกว่าปากหลุมประมาณ 1 ฝ่ามือ ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ แล้วนำต้นพันธุ์ที่คัดเลือกไว้แล้วลงปลูก

ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะปลูกทับทิมจากการเพาะเมล็ดต่อๆ กันมา เพื่อเป็นไม้มงคล จึงทำให้ได้ผลผลิตที่แตกต่างกันไปทั้งขนาด รสชาติ สีสัน และคุณภาพ ที่มีวางขายอยู่ทั่วไปก็มักจะนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด แต่ต่อมาก็ได้มีการขยายเป็นพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีความแข็งแรงเจริญงอกงามได้ดี และให้

ผลผลิตที่มีคุณภาพ

การปลูกทับทิมในช่วงแรกๆ มักมีปัญหาเกี่ยวกับปลวกเข้าทำลายกัดกินราก ดังนั้น ในช่วงที่เตรียมหลุมปลูกควรใช้ยาดีลดริน หรือคลอเดน ละลายน้ำใช้รดลงในก้นหลุมด้วย ประโยชน์ของทับทิม

ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน หรือเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี และแร่ธาตุต่างๆ มากมาย สามารถช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และบำรุงฟันให้แข็งแรงได้ และทุกส่วนของต้นทับทิมยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในทางยาได้ เช่น

ใบ – ใช้อมกลั้วคอ ทำยาล้างตา

ดอก – ใช้ห้ามเลือด

เปลือกและผลแห้ง – ใช้เป็นยาแก้ท้องร่วง ท้องเดิน แก้บิด แก้โรคลักกะปิดลักกะเปิด

เปลือกต้นและเปลือกราก – ใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืด , พยาธิตัวกลม

เมล็ด – ใช้แก้โรคลักปิดลักเปิด

การดูแล หลังจากลงต้นเสร็จแล้วก็รดน้ำใส่ปุ๋ย ปุ๋ยที่ใช้ส่วนมากจะเป็นปุ๋ยขี้วัว หาง่าย เป็นการประหยัดต้นทุน และได้ผลดีด้วย แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วยเพราะพืชแต่ละชนิดจะชอบปุ๋ยไม่เหมือนกัน อย่างมะกรูด มะนาว พวกนี้จะชอบปุ๋ยขี้วัว พอใส่ปุ๋ยรดน้ำ ใช้เวลาประมาณปีครึ่ง ถึงจะตั้งตัวได้

ผลผลิตที่ได้ในการปลูกทับทิม ปลูกทับทิมเพื่อขายประมาณ 1 ไร่เศษ พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูก ได้ 400 ต้น ต้นไม้ทุกต้นถ้าลงดินจะโตไวหาอาหารกินเองได้ ตีสักประมาณ 1 ปี สามารถตอนกิ่งแล้วเอามาลงถุงขายได้ ส่วนเรื่องผลลัพธ์ถือว่าคุ้มมาก สมมุติเป็นกิ่งแบบที่เห็น ตุ้มตอนเบ็ดเสร็จเลยถ้าจ้างประมาณ 3 บาท แล้วจะมีไม้เสียบเขาเรียกไม้ร้อย ไม้ 80 ตามความยาว มัดหนึ่งประประมาณ40บาท เฉลี่ยอันหนึ่งประมาณ 40 สตางค์ คือต้นทุนต่อถุง 10 บาท ประเภทว่าจ้างเขามานั่งกรอกแล้วนะ แล้วเราไปขาย 15 บาทเราก็ยังได้กำไร นี่คือราคาที่เขามารับถึงที่ แต่ถ้าเราวิ่งไปส่งเองก็ได้ราคา 28-30 บาท จะเห็นว่าอย่างไรก็ได้กำไร แต่ถ้าตัดขายเป็นกิ่งไปเลย แล้วจะไปทำยังไงก็ได้อยู่ประมาณ 10-15 บาท แล้วแต่ขนาดกิ่งถ้าใหญ่ก็เพิ่มราคาได้ แต่ราคาจะไม่เกิน 15 บาท ขายกันง่ายๆ 10 บาท เพราะว่าเราก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะรอด แต่ถ้าเราใส่อย่างที่ตั้งผลิดอก ออกใบมาแล้ว 25 บาท ขายไปเลยได้แน่นอน “ทั้งนี้ทั้งนั้นการปลูกทับทิมให้ได้ผลดีขึ้นอยู่กับวัสดุปรับปรุงดินที่ จะสามารถช่วยในการปรับสถาพดินให้แร่ธาตุต่างๆไปหล่อเลี้ยงต้นทับทิมได้ดี”

ที่มา : siamnews

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *