ใจชื้น นร.หญิง ม.6 ถูกสาดน้ำกรดเสียโฉม คลินิกรับช่วยศัลยกรรมฟรี หวังได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น

ใจชื้น นร.หญิง ม.6 ถูกสาดน้ำกรดเสียโฉม คลินิกรับช่วยศัลยกรรมฟรี หวังได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น ขอบคุณผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือบริจาคเงิน

วันที่ 3 ม.ค. 2567 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ตัวแทนอำเภอนางรอง ผอ. และครูที่โรงเรียน พร้อมกลุ่มงานกองการศึกษาเทศบาลเมืองนางรอง เยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.ณัฐติกานต์ ไขรัมย์ หรือน้องอั้ม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ที่ถูกสาดน้ำกรดขณะนั่งกินข้าวกับยายและน้า ทำให้ใบหน้าเสียโฉม หูซ้ายขาด ตาซ้ายหวิดบอดมองเห็นไม่ชัด ลำตัว แขน ขามีรอยไหม้ ส่วนคดีความ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2566 ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล

เหมือนตายทั้งเป็น! แม่วอนช่วยลูกสาว ม.6 ถูกสาดน้ำกรดเสียโฉม หูขาด ตาหวิดบอด
เจ้าหน้าที่ได้หาแนวทางช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของน้องจะดูแลให้เรียนจบทันเพื่อนคนอื่น เพื่อให้น้องมีโอกาสได้ศึกษาต่อเพื่ออนาคตข้างหน้า ขณะที่ผู้ใจบุญได้บริจาคเงินช่วยเหลือน้องอั้ม แล้วกว่า 600,000 บาท

นอกจากนี้ มีข่าวดีว่ามีคลินิกศัลยกรรมชื่อดังแห่งหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร ติดต่อกับแม่น้องอั้มว่าจะช่วยทำศัลยกรรมใบหน้าให้น้อง เพื่อให้สามารถออกไปใช้ชีวิตได้เหมือนคนอื่น ทำให้น้องเริ่มมีความหวังมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ต้องใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นไปกล้าออกไปไหน

น้องอั้ม เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและมีกำลังใจมากขึ้น หลังจากที่หน่วยงานต่างๆ เข้ามาเยี่ยม รวมถึงมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือ ตอนนี้มีคลินิกศัลยกรรมติดต่อมาว่าจะช่วยศัลยกรรมใบหน้าให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แม้จะได้สัก 60-70 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี จะได้กล้าออกไปใช้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นบ้าง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ

ด้าน น.ส.จิราวรรณ ชะเกตุรัมย์ แม่น้องอั้ม กล่าวว่า เรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือสภาพจิตใจและร่างกายของลูกสาว เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องน้องก็ไม่กล้าออกไปไหนเลยนอกจากไปหาหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอก็ยังนัดไปรักษาทั้งเรื่องดวงตา และหูอย่างต่อเนื่อง

แม่น้องอั้ม กล่าวอีกว่า ล่าสุดมีคลินิกที่กรุงเทพฯ ติดต่อมาว่าจะช่วยทำศัลยกรรมใบหน้าให้กับน้องโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดีใจแทนน้องมาก เขาบอกว่าจะนัดให้ไปตรวจประเมินที่คลินิกช่วงปีใหม่ ตนขอขอบคุณล่วงหน้า และขอบคุณทุกหน่วยงาน ผู้ใจบุญทุกคนที่บริจาคช่วยเหลือ

แม่น้องอั้ม กล่าวต่อว่า เงินดังกล่าวก็จะเก็บไว้เป็นค่าเดินทางพาลูกไปรักษาตามหมอนัดและค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนต้องออกจากงานมาดูแลลูก จนยายต้องขายทองที่มีมาช่วย หวังว่าหลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปแล้ว ลูกจะได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นบ้าง