การกำจัด

สาวแฉ! กลุ่ม ‘แรงงานเพื่อนบ้าน’ เก็บผักจากถังขยะมาขายต่อในตลาด

สาวแฉ! กลุ่ม ‘แรงงานเพื่อนบ้าน’ เก็บผักจากถังขยะมาขายต่อในตลาด วิจารณ์ถูกกฎหมายหรือไม่ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ด้านคอมเมนต์ถกสนั่น

วันนี้ (6 ธ.ค. 66) กลายเป็นเรื่องราวถกสนั่นในโลกโซเชียล เมื่อมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดช็อก โดยเจ้าตัวโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่าว่า “ขนลุกเว้ย แรงงานเพื่อนบ้าน เอาผักจาก ถังขยะเอาไปขายต่อให้พวกเรากิน”

ทั้งยังเสริมว่า “ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่า เราดัดจริตหรือไม่ เพราะผักก็ต้องไปล้างถูกต้องไหม แต่ประเด็นมันคือว่า เขาเป็นเพื่อนบ้านเขาสามารถขายของในประเทศไทยได้อย่างไร ขายกันฉ่ำ ตัดใส่ถุงแพ็คขาย” พร้อมทิ้งท้ายพิกัด เมืองแห่งการท่องเที่ยวติดทะเล


ท่ามกลางชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก บางส่วนคอมเมนต์ทำนองว่า ‘เข้าใจว่าเป็นการดิ้นรนหาช่องทางทำมาหากิน’ ‘คนไทยบางคนก็เอาผักทิ้งแล้วมาขาย’ ‘เราไม่เคยดูหมิ่นนะ เขาก็พยายามหาเงิน’

อีกส่วนวิจารณ์ความสะอาด ขณะที่คอมเมนต์บางส่วนสอบถามเจ้าของโพสต์ว่า “รู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเอาสินค้าไปขายจริง ๆ”

ทางเจ้าของโพสต์จึงตอบกลับชี้แจง ดังนี้

เราเป็นแม่ค้าค่ะ ไปซื้อของทุกวัน แล้วเจอเขามาขายอาหารตามสั่งรถเข็นบ้าง ขายผักสดบ้าง
จะเป็นพวกกลุ่มเดิม ๆ คนเดิม ๆ เราเห็นซ้ำ ๆ บางคนใส่ทองใหญ่กว่านิ้วโป้งอีก
แปลกว่าทำไม เจ้าหน้าที่บางสายงาน ถึงยังเมินเฉยกับเรื่องแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นอาชีพสงวนของคนไทย
เราไม่สามารถไปชี้ระบุตัวตนได้อย่างตรง ๆ
จังหวัดท่องเที่ยว ชื่อดัง ทะเลฝั่งอ่าวไทยค่ะ
พร้อมทิ้งท้ายว่า “ในข้อนี้เราไม่มีการสงสัยเรื่องผักสะอาดหรือไม่สะอาด เราแค่สงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงปล่อยปละละเลยได้ขนาดนี้ จับไปก็ปล่อยออกมาขายของอีก เกือบ 80% เป็นประเทศ​เพื่อนบ้านหมด”

โดยทาง ‘กระทรวงแรงงาน’ ได้มีการกำหนดงานในอาชีพ และวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดในอาชีพและวีชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ซึ่งลำดับที่ 35. คือ งานเร่ขายสินค้า

ทั้งนี้ ทาง ‘ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย’ เผยว่า “หากชาวต่างชาติมีความประสงค์ต้องการประกอบธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในไทย จะต้องมีการขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจ”

“จึงจะสามารถประกอบธุรกิจร้านค้าร้านอาหารหรือเครื่องดื่มได้ แต่หากมีการฝ่าฝืน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 – 50,000 บาท จนกว่าจะมีการเลิกฝ่าฝืน”

ท่ามกลางการถกสนั่น เรื่องราวจะจบลงอย่างไร คงต้องติดตามกัน

ที่มา : กระทรวงแรงงาน, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *