การกำจัด

อุทาหรณ์ ต้าเอส เสียชีวิต ไปรพ. 4 ครั้ง แต่ถูกให้กลับมากินยา สุดท้ายอาการทรุด

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 จากกรณีข่าวเศร้าที่สะเทือนวงการบันเทิงไต้หวัน เมื่อมีรายงานว่า ต้าเอส (สวี ซีหยวน) นักแสดงชื่อดังวัย 48 ปี ที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากบทบาท “ซานไช่” ซีรีส์สุดฮิต รักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ขณะเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุด เพจดังอย่าง กิ๊ฟจังนั่งเล่า ได้เผยอุทาหรณ์จากกรณีของ ต้าเอส เสียชีวิต ที่ประเทศญี่ปุ่น ระบุข้อความว่า

#คุยกับแอด จากเพจ ข่าวสารบันเทิงจีน อ้างอิงสื่อไต้หวัน ETtoday ว่า ต้าเอส (ซานไช่ จาก รักใสใสหัวใจสี่ดวง) ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไป รพ. 4 ครั้ง แต่ขอให้ถูกกลับมากินยาที่โรงแรมทุกครั้ง จนกระทั่งทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด

– อ่านจากเนื้อข่าว ต้าเอสเป็นเสี่ยงสูงค่อนข้างชัดนะคะ โรค หอบหืด / โรคหัวใจ

อุทาหรณ์ ต้าเอส เสียชีวิต ไปรพ. 4 ครั้ง แต่ถูกให้กลับมากินยา สุดท้ายอาการทรุด

… หากถามว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น🇯🇵ได้จริงไหม?

อันนี้วิเคราะห์จากประสบการณ์ส่วนตัวของแอดล้วน ๆ เลยนะคะ ถ้าจริงตามในเนื้อข่าว keyword คือ “กลางดึก” ค่ะ เจอเองกับตัวมาหลายครั้งหลายครา

– อยากขอทุกคนว่า มาญี่ปุ่นเวลาป่วย อย่ารอจนดึก อย่ารอจนเสาร์อาทิตย์ค่ะ

รพ. ที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้เปิด 24 ชม. และกลางคืนรพ. ที่เปิด ไม่ได้เปิดทุกแผนก ไม่ได้มีหมอเยอะ
-เรียกรถพยาบาล ถ้าเค้าพาไปกลางดึก แล้วไม่หนักจริง เลเวลตรีทูต ส่วนใหญ่ รพ. เค้าก็จะให้กลับมาบ้านค่ะ ยกเว้นโชคดีรพ. capacity มีพอ ได้แอดมิทกลางดึกคือ คุณโชคดีค่ะ

– ถ้าคุณกลับมาบ้าน ในวันถัดมา สิ่งที่ควรทำคือ “รีบกลับ” ไปรพ. ในเวลาราชการในวันถัดไปค่ะ “อย่ารอจนดึก” “อย่ารอจนเสาร์-อาทิตย์” ”อย่ารอจนวันหยุดนักขัตฤกษ์”

ถ้ากลางวันในเวลาราชการส่วนใหญ่รพ. ญี่ปุ่นจะไม่มีปัญหาค่ะ
(#ประสบการณ์ส่วนตัว ครั้งที่ 1: แอดโดน RA หอหิ้วปีกไปกลางดึก ตอนตี 1 อาหารเป็นพิษ อาเจียนจนหมดแรง-> หมอให้น้ำเกลือ -> นั่งตรงโถงเย็น ๆ ฮีตเตอร์ไม่ได้เปิด หนาวสุด ๆ -> หมอเดินมา ”อยากกลับบ้านเร็ว ๆ ปะ?” หนาวมาก พยักหน้า -> หมอเปิดน้ำเกลือหมุนแบบแมกซ์ ——> ปวดแขนมาก -> อะน้ำเกลือหมดละ -> เชิญกลับหอ

ครั้งที่ 2: แอดโดนหามไปรพ. โตได วันเสาร์ (ไปทำงานที่มหาลัยพอดี) -> ซีกซ้ายชา อาเจียนไม่หยุด หูซ้ายดับ ->ไม่มีเตียงมารับเพราะวันเสาร์-> อ. และรุ่นพี่วิ่งไปเอารถเข็นมารับให้นั่ง-> ต่อแถว -> สแกนสมอง (สงสัยมะเร็งในสมอง) -> ผล สมองปรกติ น่าจะเป็นน้ำในหูไม่เท่ากันแบบรุนแรง -> แผนกหูคอจมูก ปิด -> เชิญกลับบ้าน กลับมาใหม่วันจันทร์ … กลับบ้านแบบเดินแทบไม่ได้ รุ่นพี่หิ้วปีกขึ้นแท็กซี่ ดีที่อยู่หอ เพื่อนคนไทยมารับ -> วันจันทร์นั่งรถไฟมา พี่คนไทยมาส่งแบบเหมือนวิ่งผลัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่น ประคองจนถึงโรงพยาบาล -> แต่วันธรรมดารพ. โตไดคือดีและเลิศมากค่ะ

ครั้งที่ 3 รพ. ใหญ่มากในโตเกียว ก้างปลาปักคอ กำลังจะบินไปอเมริกาวันรุ่งขึ้นเลยต้องรีบมาเอาออก หมอส่องกล้องเข้าไปในจมูกและคอแบบไม่มียาชา เลือดกำเดาไหลโชก อาเจียน -> หมอเจอ -> เอาออกไม่ได้ เพราะเครื่องมือไม่พอ แผนกปิด -> ทำใจนะ by หมอ -> สุดท้ายไปถึงอเมริกา น้ำลายเป็นเลือดแล้ว -> เข้าฉุกเฉินที่รพ. อเมริกา มียาชาด้วย )

เห็น keyword “กลางดึก” ในข่าวนี้เยอะแล้วเสียใจมาก ๆ ค่ะ
คนไทยเราเองก็โดนสปอยโดยรพ. ไทยมาเยอะ เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมหน่อยก็ดีนะคะ

ที่ญี่ปุ่นเป็นแนวคนไข้ active ค่ะ -> ฉีดวัคซีน / ตรวจสุขภาพ/ รักษาสุขภาพ ใครมีโรคประจำตัวก็ต้องระวังเอง ออกไปไหนต้องแมสก์เอง ไม่รอคนอื่นใส่ค่ะ

หากป่วย
– ติดต่อประกันเดินทางให้ประกันหารพ. ที่เปิดให้
– หลายรพ. ถ้าไม่มีล่าม หมอไม่กล้ารับก็มี ประกันช่วยได้ในจุดนี้
– กรณีไม่ได้ซื้อประกันเดินทาง (ซึ่งควรซื้ออย่างยิ่ง) โทรสายด่วนตามแต่ละจังหวัดเพื่อหารพ. ที่มีหมอที่รับต่างชาติ
– ให้โรงแรมเรียกรถพยาบาลให้เมื่อจำเป็น อย่างน้อยมีคนคุยกับรถให้ค่ะ


ขอบคุณ กิ๊ฟจังนั่งเล่า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *