มะนาวไร้เมล็ดเกษตร

ปลูก “มะนาวไร้เมล็ด” น้ำเยอะ ปลูกง่าย ขายราคาดี ทำตลาดดีๆยอดขายเกินแสน!

สำหรับอาหารไทยแล้ว ถ้าขาดมะนาวไปคงทำให้ความอร่อยลดลงไปอีกเยอะเลย อาชีพปลูกมะนาวจึงกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้เราอย่างมหาศาล ยิ่งถ้าคุณภาพมะนาวของคุณมีคุณภาพสูง ราคาขายก็จะดีมากขึ้นไปอีก

ดังตัวอย่างของบุคคลท่านหนึ่งที่ผันตัวเองจากพนักงานบริษัทมาปลูกมะนาวขาย ทำไปทำมาสามารถทำรายได้ให้แก่ตัวเองสูงถึงเดือนละเกือนแสน ถ้าอยากรู้จักเขา ตามเรามาเลยค่ะ

คุณจิตติมา เถื่อนทำรง หรือคุณติ๊ก เจ้าของ “สวนวสา” จังหวัดนครนายก ตัดสินใจลาออกจากการทำงานบริษัท แล้วนำความรู้มาพัฒนาเกษตรกรรมของครอบครัว โดยทำสวน “มะนาวตาฮิติ” คุณติ๊กเล่าให้ฟังว่า
“ที่บ้านมีพื้นเพทำการเกษตรอยู่แล้ว คือปลูกอ้อย ปลูกมัน ตัวเราเรียนจบ ทำงานนบริษัทอยู่ช่วงหนึ่ง มีความคิดที่ว่าเราก็มีที่ทางเป็นของตัวเอง แต่ที่ผ่านมาทำการเกษตรไม่ประสบความสำเร็จ เห็นพ่อแม่ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทำแล้วไม่ได้อะไร เป็นหนี้ จึงตัดสินใจมาต่อยอดทำแทน โดยเอาความรู้ที่เรียนและประสบการณ์จากการทำงานมาใช้เพื่อให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ตัดสินใจว่าอยากลองปลูกมะนาว โดยศึกษามาระดับหนึ่งพบว่าโดยปกติบ้านเราจะนิยมปลูกมะนาวแป้น ซึ่งมีหลายพันธุ์แล้วก็ค่อนข้างล้นตลาด จึงมาสนใจมะนาวพันธุ์ตาฮิติ ได้รู้จักกับเจ้าของสวนที่เป็นเจ้าแรกที่นำพันธุ์เข้ามาจากต่างประเทศ ปรึกษากับคนที่เคยปลูก พบว่าเป็นมะนาวสายพันธุ์ที่ทนโรคและแมลง ออกลูกเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี มีตลาดในการส่งออก อีกทั้งคนยังปลูกน้อย ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจได้”

ข้อดีของ การปลูกมะนาวตาฮิติ ได้แก่
1. ไม่มีเมล็ด
2. ผลใหญ่ น้ำเยอะ
3. มีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวแบบกลมกล่อม ไม่ขม
4. ต้นมีความแข็งแรง ทนโรค ทำให้มีการใช้ยาฆ่าแมลงน้อย
5. สามารถปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติได้ ไม่ต้องดูแลมาก เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นได้
6. มีตลาดที่แน่นอน เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก เนื่องจากมะนาวพันธุ์นี้คนไทยยังไม่ค่อยนิยม แต่ต่างชาติชอบ มีผลผลิตเท่าไหร่รับทั้งหมด
7. ราคาสูง โดยราคาที่รับไปส่งออกจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 30-40 บาท แต่ถ้าเป็นราคาขายปลีกจะสูงถึง 70 บาทต่อกิโลกรัม และหากเป็นช่วงฤดูกาลที่มะนาวแพงอาจเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงกิโลกรัมละ 100-120 บาท
8. สามารถแปรรูปเปลือกมะนาวที่เหลือจากการคั้นน้ำเพื่อต่อยอดธุรกิจได้ บางช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด มะนาวที่ค้างสต็อกจะเป็นมะนาวเหลืองแต่ยังคงความสดอยู่ ก็จะนำไปแปรรูปคั้นเอาเฉพาะน้ำส่วนเปลือกมะนาวที่เหลือก็จะนำมาแช่อิ่มเป็นของกินเล่นได้
คุณติ๊กปลูกมะนาวพันธุ์นี้มาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยตอนแรกเริ่มปลูกที่ 12 ไร่ งบลงทุนราวๆ 100,000 บาท และขยายออกไปเรื่อย ๆ จนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าไร่ โดยพื้นที่เพาะปลูกจะปลูกพืชหมุนเวียนกันไปต่อเนื่องตลอดทั้งปี

และจากข้อดีที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้ คุณติ๊กมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน สำหรับขายผลสดและแปรรูปซึ่งขายในประเทศ และหากรวมในส่วนของการส่งออกด้วยนั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000-200,000 บาท

หากใครสนใจที่จะปลูกจริงๆ ควรศึกษาหาข้อมูล และเริ่มจากลองทำในพื้นที่เล็ก ๆ แค่ 1-2 ไร่ก่อน เพื่อประเมินตัวว่าไหวหรือไม่ ที่สำคัญอย่าเพิ่งรีบทิ้งอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ ลองทำเป็นอาชีพเสริมไปก่อน หากทำแล้วไปได้ ประสบความสำเร็จ จึงค่อยออกมาทำแบบเต็มตัวก็คงยังไม่สายเกินไป

ถือเป็นโอกาสดีอีกโอกาสหนึ่งที่คุณอาจจะสามารถลืมตาอ้าปากได้ หากมีพื้นที่ที่บ้านอยู่ ลองหันมาปลูกมะนาวสายพันธุ์นี้ดูสิค่ะ น่าจะช่วยให้คุณรวยได้ถ้าเกิดมีความตั้งใจมากพอ

ที่มา : thaijobsgov

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *